ทุกๆเผ่าพันธุ์ล้วนมีพัฒนาการตนเองมาด้วยขนบธรรมเนียม ประเพณี ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชนต่างเผ่า การให้ความเคารพซึ่งกันและกันระหว่างกลุ่มต่อกลุ่ม ชนเผ่าต่อชนเผ่า ล้วนผ่านเวลาพิสูจน์ความอยู่รอดของตนเองมาเนิ่นนานทั้งสิ้น
การให้ความเคารพระหว่าง ผู้น้อยกับผู้อาวุโส ทำให้เกิดความเมตตาต่อกันและกัน ดูแล ปกป้องซึ่งกันและกัน ทั้งๆที่ไม่ทราบว่าเป็นลูกหลานของผู้ใด ดังคำอวยพรของผู้อาวุโสให้ต่อเด็กว่า “ขอให้เจ้าจงเป็นที่รัก เมตตา ของเหล่าเทวดา มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย”
ความรัก เมตตา ที่มีให้นั่นแหละจะนำพาชนเผ่าให้อยู่รอดเหมือนไทยเราผ่านวิกฤติมาได้ด้วยพระปรีชาเลิศล้ำเกินที่ผู้ไม่หวังดีจะทำลายได้ อยู่ที่ว่าเราจะสำนึกไหม?
การพัฒนาทั้งหมดเป็นไปในรูปลักษณ์ของความเชื่อ ความศรัทธา ในวิถีพุทธ เพราะพุทธธรรมเหล่านี้ได้ความสมานกลมเกลียวต่อกัน จึงพัฒนามาเป็น “วิถีไทย” ได้เยี่ยงทุกวันนี้
อ่านเพิ่มเติม: มะกะโท ตอนที่ 2 "อัตลักษณ์คือ ลมหายใจของชาติพันธุ์" (ปรับปรุงแก้ไข 19 ส.ค. 2566)
เริ่มด้วยเพลง “เกียรติศักดิ์ทหารเสือ” เป็นการบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับบางเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ เป็นการเตือนสติพวกเราให้สำนึกว่า กว่าจะเป็นไทยในทุกๆวันนี้เราต้องต่อสู้ผ่านเหตุการณ์เสี่ยงภัย ต้องเสียเลือด เนื้อ และชีวิต เพื่อความอยู่รอดของแผ่นดิน
ถ้าเราคิดว่าเราฉลาดแล้ว เราควรรู้ไว้ด้วยว่าเราขาดความเฉลียว ฝ่ายรุกมุ่งยึดครองและทำลายแก่นแกนของจิตวิญญาเราโดยที่เราไม่รู้ตัว
มันขับไล่พระพุทธศาสนา ดำเนินมาเป็นขั้นเป็นตอนเราก็ไม่รู้เท่าทัน
สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชเราเอาตัวรอดมาได้เพราะพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ พอถึงยุคของประชาธิปไตยผู้ทรงเกียรติในสภาฯกลับไม่รู้เท่าทัน...ช่วยเขายึดครองเสียอีก ถ้าเรายกแผ่นดินให้คนรุ่นใหม่คิดหรือว่าเขาจะรู้เท่าทันภัยมหาอำนาจ และรู้เท่าทันภัยพระพุทธศาสนา?
หน้าที่ 10 จาก 10